วันอาทิตย์, ธันวาคม ๒๓, ๒๕๕๐

ดาวเทียมที่ไทยสามารถรับสัญญาณได้

รายชื่อดาวเทียมที่ประเทศไทยสามารถรับสัญญาณได้
จะเป็นชื่อดาวเทียมทั้งหมดที่ประเทศไทยสามารถรับสัญญาณได้ โดยจะบอกตำแหน่งที่ตั้งของดาวเทียม, ชื่อดาวเทียม, จำนวนช่องสัญญาณ และเชื่อมโยงไปยังรายละเอียดของรายการโทรทัศน์ทั้งหมดที่มีในดาวเทียม รวมถึงพื้นที่ให้บริการของดาวเทียมดวงนั้นด้วย

ดาวเทียม Intelsat 602






หน่วยงาน: Intelsat ประเทศเจ้าของ: นานาชาติ
ชื่อดาวเทียม: Intelsat 602
วัตถุประสงค์: เพื่อใช้ประโยชน์ด้านการสื่อสาร
ชนิดของดาวเทียม: Hughes: HS-389
น้ำหนัก: 4,215 กิโลกรัม
น้ำหนักเปล่าไม่รวมเชื้อเพลิง 1,910 กิโลกรัม
ขนาด: สูง 5.3 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 3.6 เมตร
ขนาดเมื่อกางแผงสายอากาศ 11.7 เมตร
กำลังไฟฟ้า: 2,600 วัตต์
การปล่อยดาวเทียม: ถูกปล่อยเข้าสู่วงโคจรโดยจรวด Ariane-44L
เมื่อวันที่ 27ตุลาคม 2532
วงโคจร: Geostationary Orbit ที่ตำแหน่ง 150.5 องศาตะวันออก
อายุใช้งาน:
อุปกรณ์:
อุปกรณ์ทวนสัญญาณย่าน C แบนด์ รวม 38 ช่อง
อุปกรณ์ทวนสัญญาณย่าน Ku แบนด์ รวม 10 ช่อง
พื้นที่ให้บริการ:
สามารถให้บริการในย่าน C แบนด์ แบบมุมกว้างและเฉพาะพื้นที่รวม 4 พื้นที่
มีสายอากาศแบบทิศทางย่าน Ku แบนด์ที่สามารถปรับทิศทางได้

ดาวเทียม Thaicom-2
หน่วยงาน: Shinawatra Computer and Communication Comp. (SC&C)
ประเทศเจ้าของ: ไทย
ชื่อดาวเทียม: Thaicom-2
วัตถุประสงค์: เพื่อใช้ประโยชน์ด้านการสื่อสาร
ชนิดของดาวเทียม: Hughes: HS-376L
น้ำหนัก: 629 กิโลกรัม
ขนาด: เล้นผ่านศูนย์กลาง 2.16 เมตร สูง 2.8 เมตร
เมื่อกางออกจะสูง 6.6 เมตร
กำลังไฟฟ้า: 700 วัตต์
การปล่อยดาวเทียม: ถูกปล่อยเข้าสู่วงโคจรโดยจรวด Ariane-44L
เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2537
วงโคจร: Geostationary Orbit ที่ตำแหน่ง 78.5 องศาตะวันออก
อายุใช้งาน: 13.5 ปี
อุปกรณ์:
อุปกรณ์ทวนสัญญาณย่าน C แบนด์ รวม 10 ช่อง
(มีสำรองเพิ่ม 2 ช่อง) กำลังส่งช่องละ 11 วัตต์
อุปกรณ์ทวนสัญญาณย่าน Ku แบนด์ รวม 2 ช่อง
(มีสำรองเพิ่ม 1 ช่อง) กำลังส่งช่องละ 47 วัตต์
พื้นที่ให้บริการ:
ย่าน C แบนด์ เอเซียตะวันออกเฉียงใต้















ย่าน Ku แบนด์ ประเทศไทย















ดาวเทียม Thaicom-3











หน่วยงาน: Shinawatra Computer and Communication Comp. (SC&C)
ประเทศเจ้าของ: ไทย
ชื่อดาวเทียม: Thaicom-3
วัตถุประสงค์: เพื่อใช้ประโยชน์ด้านการสื่อสาร
ชนิดของดาวเทียม: Alcatel: Spacebus-3000A
น้ำหนัก: 2,652 กิโลกรัม เมื่ออยู่ในวงโคจรหนัก 1,560 กิโลกรัม
ขนาด:
กำลังไฟฟ้า: 5,300 วัตต์
การปล่อยดาวเทียม: ถูกปล่อยเข้าสู่วงโคจรโดยจรวด Ariane-44LP
เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2540
วงโคจร: Geostationary Orbit ที่ตำแหน่ง 78.5 องศาตะวันออก
อายุใช้งาน: 14 ปี
อุปกรณ์:
อุปกรณ์ทวนสัญญาณย่าน C แบนด์ รวม 25 ช่อง
อุปกรณ์ทวนสัญญาณย่าน Ku แบนด์ รวม 14 ช่อง
พื้นที่ให้บริการ:
ครอบคลุมทวีปเอเซีย แอฟริกา ยุโรป ออสเตรเลีย

พื้นที่ให้บริการย่าน C แบนด์ พื้นที่ A, B
พื้นที่ให้บริการย่าน Ku แบนด์ พื้นที่ C, D

วันศุกร์, พฤศจิกายน ๑๖, ๒๕๕๐

คำศัพท์ที่เกี่ยวกับโทรคมนาคม

1.ADSL (Asymmetric Digital Subscriber Line)
เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในการส่งข้อมูลแบบดิจิตอล ที่ขนาด bandwidth สูง สำหรับสายโทรศัพท์บ้านและธุรกิจ ADSL มีข้อแตกต่าง จากโทรศัพท์ธรรมดา เนื่องจาก ADSL ให้การติดต่อแบบต่อเนื่อง โดย ADSL มีลักษณะอสมมาตร (asymmetric) จากการแบ่งช่อง ส่งข้อมูลให้การส่งไปยัง ผู้ใช้มากและมีช่องรับข้อมูลน้อย ADSL สามารถทำงานร่วมกับระบบอนาล็อก (เสียง) ในสายเดียวกัน ตามปกติ ADSL ใช้อัตราการส่งไปยังผู้ใช้ปลายทาง (downstream data rate) ตั้งแต่ S/2 Kbps ถึง 6 Mbps รูปแบบของ ADSL ที่รู้จักในชื่อ Universal ADSL หรือ glite ได้รับการกำหนดเบื้องต้นโดย ITU-TSADSL ได้รับการออกแบบให้ใช้ประโยชน์ จากการติดต่อทางเดียว สำหรับการสื่อสารแบบมัลติมีเดีย ซึ่งมีความต้องการในการส่งข้อมูล ไปผู้ใช้มาก และรับข้อมูลการควบคุม เพียงเล็กน้อย การทดลองใช้กับผู้ใช้จริงของ ADSL ในสหรัฐ ได้ทดลองในช่วง 1996 ถึง 1998 และการติดตั้งเพื่อใช้งานในสหรัฐได้เริ่มในปี 2000 ADSL ซึ่งเป็นรูปแบบ อีกแบบหนึ่งของ DSL คาดว่าจะได้รับการใช้งานโดยทั่วไปในเขตเมือง

2.ARP (Address Resolution Protocol)
ARP (Address Resolution Protocol) เป็นโปรโตคอลสำหรับการจับคู่ (map) ระหว่าง Internet Protocol address (IP address) กับตำแหน่งของอุปกรณ์ในระบบเครือข่าย เช่น IP เวอร์ชัน 4 ใช้การระบุตำแหน่งขนาด 32 บิต ใน Ethernet ของระบบใช้การระบุ ตำแหน่ง 48 บิต (การระบุตำแหน่งของอุปกรณ์รู้จักในชื่อของ Media Access Control หรือ MAC address) ตาราง ARP ซึ่งมักจะเป็น cache จะรักษาการจับคู่ ระหว่าง MAC address กับ IP address โดย ARP ใช้กฎของโปรโตคอล สำหรับการสร้างการจับคู่ และแปลงตำแหน่งทั้งสองฝ่าย การทำงานของ ARPเมื่อแพ็คเกตนำเข้าที่ระบุเครื่อง host ในระบบเครือข่ายมาถึง Gateway เครื่องที่ Gateway จะเรียกโปรแกรม ARP ให้หาเครื่อง host หรือ MAC address ที่ตรงกับ IP address โปรแกรม ARP จะหาใน ARP cache เมื่อพบแล้วจะแปลงแพ็คเกต เป็นแพ็คเกตที่มีความ ยาวและรูปแบบที่ถูกต้อง เพื่อส่งไปยังเครื่องที่ระบุไว้ แต่ถ้าไม่พบ ARP จะกระจาย แพ็คเกตในรูปแบบพิเศษ ไปยังเครื่องทุกเครื่องในระบบ และถ้าเครื่องใดเครื่องหนึ่งทราบว่ามี IP address ตรงกันก็จะตอบกลับมาที่ ARP โปรแกรม ARP จะปรับปรุง ARP cache และส่งแพ็คเกตไปยัง MAC address หรือเครื่องที่ตอบมาเนื่องจากแต่ละโปรโตคอลมีรายละเอียดที่แตกต่างกันตามประเภทของ LAN ดังนั้นจึงมี การแยก ARP Request for Comments ตามประเภทของโปรโตคอลสำหรับ Ethernet, asynchronous transfer mode, Fiber Distributed-Data Interface, HIPPI และโปรโตคอลอื่น ส่วน Reverse ARP สำหรับเครื่อง host ที่ไม่รู้จัก IP address นั้น RARP สามารถให้เครื่อง เหล่านี้ขอ IP address จาก ARP cache ของ Gateway

3.BitTorrent
BitTorrent คือ โปรโตคอลกระจายเนื้อหาที่ทำให้การกระจายซอฟแวร์มีประสิทธิภาพและการแบ่งปันแบบ peer-to-peer ของไฟล์ขนาดใหญ่ เช่น ภาพยนต์และรายการโทรทัศน์ โดยให้ผู้ใช้ทำหน้าที่เครือข่ายจุดการกระจายซ้ำ แทนที่ต้องส่งข้อมูลดาวน์โหลดให้แต่ละคำขอของลูกค้า ผู้กระจายหรือผู้เก็บเนื้อหาส่งให้กับลูกค้าผู้เปลี่ยนเป็นการส่งให้ลูกค้าอีกรายที่แบ่งปันข้อมูลดาวน์โหลดกลับมาหรือไปต่อจนกระทั่งมทุกคนเสร็จสิ้นการดาวน์โหลด สิ่งนี้ทำให้เป็นไปได้สำหรับแม่ข่ายจุดเริ่มต้นให้บริการหลายคำขอสำหรับไฟล์ขนาดใหญ่โดยปราศจากความต้องการแถบความกว้างคลื่นจำนวนมาก ตามรายงาน ผู้ใช้อาจจะหวังว่าจะดูภาพยนต์ขนาดยาวมาถึงภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงโปรโตคอลของ BitTorrent ได้รับการอธิบายว่าเป็น file transfer protocol “จับเป็นกลุ่ม กระจาย และรวบรวม” สิ่งนี้ได้รับการเขียนด้วยภาษาโปรแกรม Python โดย Bram Cohen และได้รับการกระจายฟรีภายใต้ใบอนุญาต open source

4.Border Gateway Protocol (BGP)
Border Gateway Protocol (BGP) เป็นโปรโตคอลสำหรับการแลกเปลี่ยนข้อมูลของเส้นทางระหว่าง gateway host (ซึ่งแต่ละที่จะมี router ของตัวเอง) ในเครือข่ายแบบอัตโนมัติ BGP มักจะได้รับการใช้ระหว่าง gateway host บนระบบอินเตอร์เน็ต ตาราง routing ประกอบด้วยรายการของ router ตำแหน่งและตารางค่าใช้จ่าย (cost metric) ของเส้นทางไปยัง router แต่ละตัว เพื่อการเลือกเส้นทางที่ดีที่สุด host ที่ใช้การติดต่อด้วย BGP จะใช้ Transmission Control Protocol (TCP) และส่งข้อมูลที่ปรับปรุงแล้วของตาราง router เฉพาะ host ที่พบว่ามีการเปลี่ยนแปลง จึงมีผลเฉพาะส่วนของตาราง router ที่ส่ง BGP-4 เป็นเวอร์ชันล่าสุด ซึ่งให้ผู้บริหารระบบทำการคอนฟิก cost metric ตามนโยบาย การติดต่อด้วย BGP ของระบบ แบบอัตโนมัติที่ใช้ Internet BGP (IBGP) จะทำงานได้ไม่ดีกับ IGP เนื่องจาก router ภายในระบบอัตโนมัติต้องใช้ตาราง routing 2 ตาราง คือ ตารางของ IGP (Internet gateway protocol) และตารางของ IBGP BGP เป็นโปรโตคอลที่ทันสมัยกว่า Exterior Gateway Protocol

5.Cellular telephone
cellular telephone เป็นประเภทการส่งผ่านของคลื่นสั้นชนิดอะนาล็อก หรือดิจิตอล ซึ่งผู้ใช้ติดต่อแบบไร้สายจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ไปยังสถานีส่งที่ใกล้ที่สุด ช่วงครอบคลุมของสถานีส่ง เรียกว่า cell โดยทั่วไปแล้วโทรศัพท์แบบ cellular จะใช้ในเมืองและถนนหลวง โดยผู้ใช้โทรศัพท์จะย้ายจากเซลส์ หรือพื้นที่ครอบคลุมไปยังอีกเซลส์หนึ่ง และสามารถต่อกับโทรศัพท์ธรรมดาได้ แต่อย่าสับสนระหว่าง cellular telephone กับโทรศัพท์ไร้สาย (cordless telephone) และมีบริการใหม่ที่คล้ายกับระบบ cellular คือ personal communication service (PCS)

6.coaxial cable
coaxial cable เป็นสายเคเบิลทองแดงชนิดหนึ่งใช้โดยผู้ให้บริการ เคเบิลทีวี ระหว่างสถานีส่งกับผู้ใช้ตามบ้าน และธุรกิจ coaxial cable บางครั้งใช้โดยบริษัทโทรศัพท์จาก central office ไปยังตู้โทรศัพท์ใกล้ผู้ใช้ และมีการใช้อย่างกว้างขวาง สำหรับระบบเครือข่ายแบบ Ether net และเครือข่าย LAN อื่น ๆ
coaxial cable ได้รับการเรียกว่า " Coaxial" เพราะภายใน 1 ช่องทางกายภาค มีการนำสัญญาณโดยรอบ (ต่อจากชั้นฉนวน) ด้วยช่องสัญญาณทางกายภาคที่ซ้ำซ้อน ซึ่งทั้งคู่ใช้ส่งสัญญาณตลอดแกนเดียวกัน ช่องสัญญาณชั้นนอกทำหน้าที่เป็นกราวด์ และสามารถนำสายสัญญาณหลายสัญญาณ ในตัวหุ้มเดียวกัน เมื่อใช้กับ repeater จะสามารถส่งสารสนเทศได้ไกลขึ้น
coaxial cable ได้รับการประยุกต์ เมื่อปี 1929 และนำไปใช้เชิงพาณิชย์ ในปี 1941 โดยบริษัท AT&T วางสายส่งด้วย coaxial cable ในสหรัฐฯ ในปี 1940 นอกจากนี้มีการใช้สาย twisted pair และ optical fiber ด้วยซึ่งขึ้นกับเทคโนโลยีการส่งผ่าน และปัจจัยอื่น ๆ

7.LAN
Local area network (LAN) เป็นกลุ่มของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งใช้สายติดต่อร่วมกัน เพื่อใช้ทรัพยากรของเครื่องแม่ข่ายร่วมกันภายในพื้นที่ขนาดเล็ก โดยปกติเครื่องแม่ข่ายจะเก็บข้อมูล และโปรแกรมประยุกต์ เพื่อให้คอมพิวเตอร์ลูกข่ายสามารถเข้ามาใช้ได้ ขนาดของ LAN อาจจะประกอบผู้ใช้ 2-3 ราย หรือหลายพันราย เทคโนโลยีหลัก - Ethernet - Token ring - Attached Resource Computer Network - Fiber Distributed-Data Interface ตามปกติ ชุดของโปรแกรมประยุกต์สามารถเก็บไว้ในเครื่องแม่ข่าย ผู้ใช้สามารถเข้าเรียกมาใช้ข้อมูล และโปรแกรมโดยทำงานจากเครื่องลูกข่ายได้ ในขณะที่การสั่งพิมพ์และบริการอื่นเป็นการทำงานที่เครื่องแม่ข่าย การใช้ไฟล์ร่วมกับผู้ใช้รายอื่นบนเครื่องแม่ข่าย ต้องมีการกำหนดสิทธิโดยผู้บริหารระบบเครื่องแม่ข่ายของ สามารถใช้ Web server ได้ถ้ามีระบบป้องกันข้อมูล และโปรแกรมประยุกต์ที่ใช้ภายในจากการเข้าถึงของบุคคลภายนอก

8.Ethernet
ethernet เป็นเทคโนโลยีของ LAN ที่ได้รับการติดตั้งอย่างกว้างขวาง โดยระบุตามมาตรฐาน IEEE 802.3 Ethernet มีการพัฒนาโดย Xerox และพัฒนาต่อโดย Xerox, DEC และIntel แบบฉบับของ ethernet ใช้สาย coaxial หรือสาย twisted pair แบบพิเศษ ระบบที่ติดตั้งด้วย ethernet เรียก 10BASE-T และให้ความเร็วในการส่งข้อมูล 10 Mbps อุปกรณ์ในการติดต่อกับสายและการเข้าสู่ระบบใช้ โปรโตคอลแบบ Carrier Sense Multiple Access with Collision Detection (CSMA/CD) Fast Ethernet หรือ 100BASE-T ให้ความเร็วถึง 100 Mbps และปกติมักจะใช้เป็น backbone ของระบบ ซึ่งสนับสนุนเครื่องลูกข่ายที่ใช้การ์ด 10BASE-T ในส่วน Gigabit Ethernet ให้ความเร็วของ backbone เป็น 1000 Mbps หรือ 1gigabit ต่อวินาที

9.channel
1. โดยทั่วไปของโทรคมนาคม channel เป็นการแยกเส้นทางให้สัญญาณสามารถผ่านไปได้ 2. ในเครือข่ายโทรศัพท์แบบ public switched, channel เป็นเส้นทางหนึ่งของหลายเส้นในการส่งภายการเชื่อมเดี่ยวระหว่างจดบนเครือข่าย เช่น สายของระบบ T-carrierให้บริการช่องละ 2464 Kbps สำหรับการส่งข้อมูลดิจิตอล3. ในวิทยุและโทรทัศน์ channel เป็นการแยกสัญญาณนำเข้า หรือโปรแกรมที่ผู้ใช้สามารถเลือก4. ในการส่งผ่าน optical fiber ด้วย dense wavelength-division multiplexing , channel เป็นการแยกความยาวคลื่นของ แสงภายในการรวมและผสมแสง5. บน world wide web, channel เป็นการเลือก web site ไว้ก่อน เพื่อทำให้สามารถส่งการปรับสารสนเทศโดยอัตโนมัติสำหรับการส่งทันที หรือดูตามการขอ6. ในคอมพิวเตอร์และการตลาดอินเตอร์เน็ต, channel เป็นคนกลางระหว่างผู้สร้างผลิตภัณฑ์ และตลาด value-added reseller และร้านค้าขายปลีก เป็นตัวอย่าง channel ในความหมายนี้7. การใช้ Internet relay chat (IRC), channel เป็นการระบุกลุ่มของ chat8. ในระบบเมนเฟรมของ IBM, channel เป็น bandwidth ขนาดใหญ่ระหว่างการติดต่อระหว่างโพรเซสเซอร์กับโพรเซสเซอร์อื่น, เวิร์กสเตชัน , เครื่องพิมพ์และอุปกรณ์ภายในซึ่งเรียกว่า local connection และตรงข้ามกับ remote connection

10.twisted pair
twisted pair เป็นสายทองแดงแบบดั้งเดิมที่เชื่อมต่อบ้านและบริษัทต่าง ๆ กับผู้ให้บริการโทรศัพท์เพื่อลด cross talk หรือการเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้าระหว่างคู่สาย จะใช้สายทองแดงหุ้มฉนวนพันกันเป็นเกลียว แต่ละการเชื่อมต่อบนสาย twisted pair ต้องการทั้ง 2 สาย เนื่องจากโทรศัพท์บางแบบหรือที่ตั้งโต๊ะ บางที่ต้องการเชื่อมแบบหลายการเชื่อมต่อ สาย twisted pair ในบางครั้งจึงมี 2 คู่ หรือมากกว่าภายในสายเคเบิลเดียว สำหรับที่ตั้งบริษัทบางแห่ง สาย twisted pair มีการหุ้มเพื่อทำหน้าที่เป็นสายดิน ซึ่งเรียกว่า shield twisted pair (STP) สายที่ใช้ตามบ้านทั่วไปคือ unshielded twisted pair (UTP)twisted pair ในปัจจุบันได้รับการติดตั้งแบบ 2 คู่ ตามบ้าน โดยคู่ที่เพิ่มทำให้สามารถเพิ่มสายได้เมื่อต้องการtwisted pair จะมีรหัสสีของแต่ละคู่ไม่ซ้ำ สำหรับแบบหลายคู่ ในการใช้งานที่แตกต่างกัน เช่น อะนาล็อก ดิจิตอล และ Ethernet ต้องการคู่ที่แตกต่างกัน ถึงแม้ว่า twisted pair มักจะเกี่ยวข้องกับการใช้งานในบ้าน แต่สาย twisted pair เกรดสูงมักจะใช้ สำหรับการวางสายแนวนอนในการติดตั้ง LAN เนื่องจากถูกกว่า coaxial cable

11.optical fiber
optical fiber อ้างถึง ตัวกลาง หรือ เทคโนโลยีตรงกับการส่งของสารสนเทศ เป็นสัญญาณแสงผ่านแก้ว หรือสายพลาสติก หรือ fiber ความสามารถการนำพาสารสนเทศของ optical fiber มีมากกว่าสายทองแดงดั้งเดิม ไม่มีการรบกวนจากสนามแม่เหล็กไฟฟ้า และต้องการส่งผ่านสัญญาณซ้ำ การส่งผ่านบนสาย optical fiber ต้องการ repeater ตามระยะห่างที่เหมาะสม และต้องการการป้องกันภายในเคเบิ้ลชั้นนอกมากกว่าทองแดงsingle mode fiber เป็นการสำหรับระยะไกล multi-mode fiber เป็นการใช้ในระยะที่ใกล้กว่า

12.domain name system
domain name system เป็นวิธีการที่ domain name ของอินเตอร์เน็ตในการกำหนดและแปลเป็นตำแหน่งของ Internet Protocol ซึ่ง domain name มีความหมายและจำได้ง่ายสำหรับ internet address เนื่องจากการดูแลรายการส่วนกลางของ domain name หรือ IP address ที่ต่างกันจะมีผลในทางปฏิบัติ รายการของ domain name และ IP address ที่กระจายผ่านอินเตอร์เน็ตตามโครงสร้าง ในบางครั้ง DNS server มีความอ่อนไหวกับภูมิประเทศในการเข้าถึงเพื่อจับคู่ domain name กับ คำขออินเตอร์เน็ต หรือส่งผ่านไปยังเครื่องแม่ข่ายในอินเตอร์เน็ต


13.domain name
Domain name (ชื่อโดเมน) เป็นตำแหน่งขององค์กรบนอินเตอร์เน็ต เช่น domain namewww.footballreport.comตำแหน่ง Internet address สำหรับ "www.footballreport.com" คือ 184.0.1.1 และชื่อ host server คือ "www." ข้อความ .com เป็นส่วนของชื่อโดเมนที่ระบุเป้าหมายขององค์กร (เช่น .com มาจาก commercial) และเป็นระดับสูงสุด (Top - level domain name) ของชื่อโดเมน ส่วน footballreport เป็นส่วนของ ชื่อโดเมนที่ระบุองค์กร ซึ่งเมื่อรวมระดับ Top-level แล้วเรียกว่าระดับ ชื่อโดเมนในระดับที่ 2 (Second - level domain name) ซึ่ง ชื่อโดเมนในระดับที่ 2 เป็นชื่อที่สามารถเชื่อมต่อได้หรืออาจจะเรียกว่า เวอร์ชันที่อ่านได้ของ Internet address ในส่วนระดับที่ 3 (Third - level)
เป็นการระบุรายละเอียดของ host server ในอินเตอร์เน็ต โดย www เป็นชื่อเครื่องแม่ข่ายที่อินเตอร์เน็ตติดต่อได้ ดังนั้นชื่อในระดับที่ 3 คือ http://www.footballreport.com/ Subdomain เช่น "www.pacific.footballreport.com" เมื่อประกอบกับ "www.footballreport.com" แล้วคือการระบุแบบ fully qualified domain name ชื่อโดเมนแบบระดับที่ 2 จะต้องไม่ซ้ำ (Unique) กับชื่ออื่นในอินเตอร์เน็ต บนเว็บ ชื่อโดเมนอื่น หรือ URL (Uniform Resource Locator) จะบอกเครื่องแม่ข่ายของชื่อโดเมน เพื่อใช้ domain name system ส่งต่อการเรียกเว็บเพจ โดย domain name จะจับคู่ด้วย IP address การใช้ ชื่อโดเมนในการจับคู่ด้วย Internet address สามารถใช้ ชื่อโดเมนมากกว่า 1 ชื่อ โดยให้มีการจัดแบ่งการระบุชื่อโดเมน เพื่อใช้เครื่องแม่ข่ายในระบบอินเตอร์เน็ตร่วมกัน

14.e-mail
e - mail เป็นการแลกเปลี่ยนข่าวสารระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยผ่านระบบโทรคมนาคม ข่าวสารหรือข้อความของ e- mail จะเป็นไฟล์ประเภทข้อความ อย่างไรก็ตามสามารถส่งไฟล์ประเภทอื่น เช่น ไฟล์ประเภทภาพหรือเสียง เป็นไฟล์ที่แนบไปในรหัสแบบ binary โดย e- mail เป็นสิ่งแรกที่ใช้อย่างกว้างขวางในอินเตอร์เน็ต และเป็นสัดส่วนใหญ่ในการใช้ traffic บนอินเตอร์เน็ต e- mail สามารถแลกเปลี่ยนระหว่างผู้ใช้ของ online service provider กับระบบเครือข่ายอื่น นอกจากนี้ ภายในอินเตอร์เน็ต e- mail เป็นโปรโตคอลแบบหนึ่งที่รวมอยู่ใน Transport Control Protocol/Internet Protocol (TCP/IP) โปรโตคอลที่นิยมสำหรับการส่ง e- mail คือ Simple Mail Transfer Protocol (SMTP) และโปรโตคอล ที่นิยมในการรับ e- mail คือ POP3 ทั้ง Netscape และ Microsoft ได้รวม e- mail และส่วนประกอบการทำงานใน web browser

15.TCP/IP (Transmission Control Protocol/Internet Protocol)
TCP/IP (Transmission Control Protocol/Internet Protocol) เป็นระบบโปรโตคอล การสื่อสารพื้นฐานของระบบอินเตอร์เน็ต มันสามารถใช้เป็น โปรโตคอลในการสื่อสารภายใน เครือข่ายส่วนบุคคล เรียกว่า intranet และ extranet เมื่อมีการติดต่อโดยตรงกับ internet เครื่องคอมพิวเตอร์จะได้รับการคัดลอกโปรแกรม TCP/IP เช่นเดียวกับคอมพิวเตอร์อื่น ๆ เพื่อทำให้ส่งข้อความขอรับสารสนเทศ TCP/IP เป็นโปรแกรม 2 เลเยอร์ TCP (Transmission Control Protocol) เป็นเลเยอร์ที่สูงกว่า ทำหน้าที่จัดการแยกข้อความหรือไฟล์แลปรกอบให้เหมือนเดิม IP (Internet Protocol) เป็นเลเยอร์ที่ต่ำกว่า ทำหน้าที่จัดการส่วนของที่อยู่ของแต่ละชุดข้อมูล เพื่อทำให้มีปลายทางที่ถูกต้อง เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่เป็น Gateway บนเครือข่ายจะตรวจที่อยู่นี้เพื่อหาจุดหมายในการส่งข้อความ ชุดข้อมูลอาจจะใช้เส้นทางไปยังปลายทางต่างกัน แต่ทั้งหมดจะได้รับการประกอบใหม่ที่ปลายทางTCP/IP ใช้ในแบบ client/server ในการสื่อสาร (ระหว่างคอมพิวเตอร์) ซึ่งผู้ใช้คอมพิวเตอร์ (client) เป็นผู้ขอและการบริการได้รับจากคอมพิวเตอร์เครื่องแม่ข่ายในระบบเครือข่าย การสื่อสารของ TCP/IP เป็นแบบจุดต่อจุด (point -to- point) หมายความว่าการสื่อสารแต่ละครั้งเกิดจากจุดหนึ่ง (เครื่อง host เครื่องหนึ่ง) ไปยังจุดอื่นหรือเครื่อง host เครื่องอื่นในเครือข่าย TCP/IP และโปรแกรมประยุกต์ระดับสูงอื่น ที่ใช้ TCP/IP สามารถเรียกว่า "Stateless" เพราะการขอแต่ละ client ได้รับการพิจารณาเป็นการขอใหม่โดยไม่สัมพันธ์กับการขอเดิม (แต่แตกต่างจากการสนทนาทางโทรศัพท์) การที่เป็นพาร์ทของเครือข่ายอิสระแบบ "Stateless" ดังนั้นทุกคนสามารถใช้พาร์ทได้อย่างต่อเนื่อง (หมายเหตุ เลเยอร์ของ TCP จะไม่ "Stateless" ถ้ายังทำการส่งข้อความใดข้อความหนึ่ง จะทำการส่งจนกระทั่งชุดข้อมูลนั้นได้รับครบชุด)ผู้ใช้อินเตอร์เน็ต จำนวนมากคุ้นเคยกับการประยุกต์เลเยอร์ระดับสูง โดยใช้ TCP/IP เพื่อเข้าสู่ระบบอินเตอร์เน็ท ทั้งนี้รวมถึง World Wide Web's Hypertext Transfer Protocol (HTTP), File Transfer Protocol (FTP) ซึ่งในการเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ในระยะไกล และ Simple Mail Transfer Protocol (SMTP) Protocol เหล่านี้ จะเป็นชุดเดียวกับ TCP/IP ในลักษณะ "Suite" เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล มักจะเข้าสู่อินเตอร์เน็ต ผ่าน Serial Line Internet Protocol (SLIP) หรือ Point-To-Point Protocol (PPP) โปรโตคอล แบบนี้จะควบคุมชุดข้อมูลของ IP ดังนั้น จึงสามารถใช้ส่งผ่านการติดต่อด้วยสายโทรศัพท์ ผ่านโมเด็ม Protocol ที่สัมพันธ์กับ TCP/IP ได้แก่ User Datagram Protocol (UDP) สำหรับใช้แทน TCP/IP ในกรณีพิเศษ ส่วนโปรโตคอลอื่นที่ใช้โดยเครื่อง host ของเครือข่ายสำหรับการแลกเปลี่ยนสารสนเทศกับ router ได้แก่ Internet Control Message Protocol (ICMP) Interior Gateway Protocol (IGP) Exterior Gateway Protocol (EGP) และ Border Gateway Protocol (BGP) TCP/IP (Transmission Control Protocol/Internet Protocol)
TCP/IP (Transmission Control Protocol/Internet Protocol) เป็นระบบโปรโตคอล การสื่อสารพื้นฐานของระบบอินเตอร์เน็ต มันสามารถใช้เป็น โปรโตคอลในการสื่อสารภายใน เครือข่ายส่วนบุคคล เรียกว่า intranet และ extranet เมื่อมีการติดต่อโดยตรงกับ internet เครื่องคอมพิวเตอร์จะได้รับการคัดลอกโปรแกรม TCP/IP เช่นเดียวกับคอมพิวเตอร์อื่น ๆ เพื่อทำให้ส่งข้อความขอรับสารสนเทศ TCP/IP เป็นโปรแกรม 2 เลเยอร์ TCP (Transmission Control Protocol) เป็นเลเยอร์ที่สูงกว่า ทำหน้าที่จัดการแยกข้อความหรือไฟล์แลปรกอบให้เหมือนเดิม IP (Internet Protocol) เป็นเลเยอร์ที่ต่ำกว่า ทำหน้าที่จัดการส่วนของที่อยู่ของแต่ละชุดข้อมูล เพื่อทำให้มีปลายทางที่ถูกต้อง เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่เป็น Gateway บนเครือข่ายจะตรวจที่อยู่นี้เพื่อหาจุดหมายในการส่งข้อความ ชุดข้อมูลอาจจะใช้เส้นทางไปยังปลายทางต่างกัน แต่ทั้งหมดจะได้รับการประกอบใหม่ที่ปลายทางTCP/IP ใช้ในแบบ client/server ในการสื่อสาร (ระหว่างคอมพิวเตอร์) ซึ่งผู้ใช้คอมพิวเตอร์ (client) เป็นผู้ขอและการบริการได้รับจากคอมพิวเตอร์เครื่องแม่ข่ายในระบบเครือข่าย การสื่อสารของ TCP/IP เป็นแบบจุดต่อจุด (point -to- point) หมายความว่าการสื่อสารแต่ละครั้งเกิดจากจุดหนึ่ง (เครื่อง host เครื่องหนึ่ง) ไปยังจุดอื่นหรือเครื่อง host เครื่องอื่นในเครือข่าย TCP/IP และโปรแกรมประยุกต์ระดับสูงอื่น ที่ใช้ TCP/IP สามารถเรียกว่า "Stateless" เพราะการขอแต่ละ client ได้รับการพิจารณาเป็นการขอใหม่โดยไม่สัมพันธ์กับการขอเดิม (แต่แตกต่างจากการสนทนาทางโทรศัพท์) การที่เป็นพาร์ทของเครือข่ายอิสระแบบ "Stateless" ดังนั้นทุกคนสามารถใช้พาร์ทได้อย่างต่อเนื่อง (หมายเหตุ เลเยอร์ของ TCP จะไม่ "Stateless" ถ้ายังทำการส่งข้อความใดข้อความหนึ่ง จะทำการส่งจนกระทั่งชุดข้อมูลนั้นได้รับครบชุด)ผู้ใช้อินเตอร์เน็ต จำนวนมากคุ้นเคยกับการประยุกต์เลเยอร์ระดับสูง โดยใช้ TCP/IP เพื่อเข้าสู่ระบบอินเตอร์เน็ท ทั้งนี้รวมถึง World Wide Web's Hypertext Transfer Protocol (HTTP), File Transfer Protocol (FTP) ซึ่งในการเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ในระยะไกล และ Simple Mail Transfer Protocol (SMTP) Protocol เหล่านี้ จะเป็นชุดเดียวกับ TCP/IP ในลักษณะ "Suite" เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล มักจะเข้าสู่อินเตอร์เน็ต ผ่าน Serial Line Internet Protocol (SLIP) หรือ Point-To-Point Protocol (PPP) โปรโตคอล แบบนี้จะควบคุมชุดข้อมูลของ IP ดังนั้น จึงสามารถใช้ส่งผ่านการติดต่อด้วยสายโทรศัพท์ ผ่านโมเด็ม Protocol ที่สัมพันธ์กับ TCP/IP ได้แก่ User Datagram Protocol (UDP) สำหรับใช้แทน TCP/IP ในกรณีพิเศษ ส่วนโปรโตคอลอื่นที่ใช้โดยเครื่อง host ของเครือข่ายสำหรับการแลกเปลี่ยนสารสนเทศกับ router ได้แก่ Internet Control Message Protocol (ICMP) Interior Gateway Protocol (IGP) Exterior Gateway Protocol (EGP) และ Border Gateway Protocol (BGP)